ปรากฏการณ์ Woke และผลของมันที่ส่งผลต่อ “วงการเกม”
October 27, 2024
bookmarkข่าว
sell
Woke คืออะไร ?… Woke หรือ “โวค” เป็นคำคุณศัพท์ที่มาจากภาษาพื้นเมืองชาวแอฟริกันอเมริกัน ซึ่งแต่เดิมหมายถึงการตื่นตัวต่ออคติและการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ก่อนจะกลายเป็นศัพท์แสลงในปี 2010 แต่ก่อนจะกลายเป็นคำว่า Woke มันเคยเป็นคำอื่นมาก่อน และมีมาตั้งแต่ปี 1860 แล้ว !!

รู้หรือไม่ ? ประวัติศาสตร์ของการ Woke มีมานานก่อนเราเกิด
ก่อนจะกลายเป็นคำว่า Woke เริ่มแรกเดิมที มันคือคำว่า Woken ซึ่งเป็นรูปอดีตของคำว่า Wake และกลายเป็น Awake ในเวลาต่อมา โดยมีจารึกครั้งแรกว่าถูกใช้โดยองค์กรเยาวชนกึ่งทหารที่ชื่อว่า Wide Awakes ในปี 1860 เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งของ อับราฮัม ลินคอล์น และหนุนแนวคิดของการเลิกทาส ในปี 1923 คำนี้กลายเป็นปรัชญา ที่เขียนว่า "Wake up Ethiopia! Wake up Africa!” ซึ้งเป็นแนวความคิดทางการเมืองของคนผิวดำในยุคแรก ๆ

คำนี้เปลี่ยนรูปอีกครั้งไปเป็น Stay Woke โดยนักร้องนักแต่งเพลงแนวโฟล์ค ลีด เบลลี ในเพลง Scottsboro Boys ในปี 1938 เพื่อบอกให้คนดำต้องตื่นตัวอยู่เสมอ ตระหนักถึงการเหยียดเชื้อชาติและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากคนขาวในอเมริกา
Woke ได้รับความหมายทางการเมืองมากขึ้นในปี 1971 หลังมันถูกใช้ในบทละครเรื่อง Garvey Lives! by Barry Beckham ในปี 2000 - 2014 คำคำนี้ถูกใส่ในเพลงหลายเพลง เพื่อกระตุ้นสังคมถึงการเลือกปฏิบัติทางสังคม การเหยียดเชื้อชาติ ความอยุติธรรม การตระหนักรู้ การตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวความคิดที่ครอบงำจิตใจ และมุ่งมั่นเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่า
ในช่วงปีนี้ ยังเป็นยุคที่โลกออนไลน์พึ่งก่อกำเนิดขึ้น Woke ก่อให้เกิด #Staywoke ขึ้น และมันก็ถูกนำไปใช้ให้มีความหมายมากกว่าแค่เรื่องของคนดำ โดยจะเน้นไปถึงทัศนคติที่ก้าวหน้าในประเด็นต่าง ๆ

ในช่วงปี 2015 จากเหตุการณ์ยิง Michael Brown คำว่า Stay Woke ถูกนำมาใช้โดยนักเคลื่อนไหวของขบวนการ Black Lives Matter เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ถึงการละเมิดสิทธิของตำรวจ คำว่า Woke ได้รับความหมายใหม่โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหว Black Lives Matter ว่า “ตระหนักรู้ทางการเมืองและสังคม”
หลังปี 2015 เป็นต้นมา Woke กลายเป็นคำที่ใช้กันแบบกว้างขวางถึงขีดสุด มันถูกใช้โดยนักเคลื่อนไหวมากมาย ไม่จำกัดแค่คนดำ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับแนวคิดอัตลักษณ์และเชื้อชาติ และได้รับการส่งเสริมโดยกลุ่มหัวก้าวหน้า Woke ถูกใช้ใความหมายที่หลากหลายตั้งแต่ความอยุติธรรม การเหยียดเชื้อชาติ การเหยียดเพศ และอีกมากมาย

Woke กลายเป็นคำที่ได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter หรือ X ในปัจจุบันแบบมาก ๆ เพราะเป็นคำสั้น ๆ ที่มีความหมายครบถ้วน เหมาะกับข้อจำกัด 140 ตัวอักษรของแพลตฟอร์ม ณ เวลานั้น มันกลายเป็นทั้งมีมในทุกที่ของโลกออนไลน์ รวมถึงยังถูกค้นหาบน Google มากขึ้น
คำ ๆ นี้ถูกใช้แรงขึ้นช่วงปี 2016 หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา มันถูกใช้เพื่อทวงสิทธิ์ของคนดำ ผู้หญิง ไปจนถึงเหล่าเชื่อชาติอื่น ๆ ในอเมริกา และถูกใช้เพื่อโจมตีทางการเมืองกับอีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะรัฐบาลของ ทรัมป์โดยตรง ซึ่งส่งผลให้ผู้คนในอเมริกาหลายกลุ่มเริ่มต่อต้าน Woke หรือเป็นการเกิดฝั่ง Anti-Woke ขึ้นในเวลาต่อมา
ในปี 2022 คำว่า Woke เริ่มถูกใช้มากขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา มันถูกเปลี่ยนไปใช้เป็นคำเยาะเย้ยหรือประชดประชันมากขึ้น ความหมายของมันในอดีตถูกต่อต้านมากขึ้น โดยมองว่าความตื่นรู้เป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวเพื่อการแสดงที่ไม่จริงใจ เสรีนิยมที่ชอบธรรมเกินไป หรือการปฏิบัติตามอุดมการณ์ที่ไม่ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นและยึดมั่นในศีลธรรม

ทำไมอยู่ดี ๆ Woke ถึงเป็นกระแสในเกม
กรณีของต่างประเทศ
อย่างที่เล่าในหัวข้อก่อนหน้า จุดเริ่มต้นของคำว่า Woke จริง ๆ นั้น เกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่ถูกเอาเปรียบทางสังคม ซึ่งเกิดจากเชื้อชาติและอัตลักษณ์ที่แตกต่างกัน ความหมายมันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา จากจุดสูงสุดที่คนมองว่าเป็นคำที่ดี จนมาถึงปัจจุบันที่เริ่มถูกต่อต้าน และเริ่มถูกมองว่าเป็นแนวคิดที่บิดเบี้ยว...
สำหรับ “อุตสาหกรรมเกม” คำว่า Woke เริ่มส่งผลจริง ๆ ก็คือช่วงปี 2015 เป็นต้นมา ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมเกม เป็นสังคมของชายเป็นใหญ่ ซึ่งเกิดมาจากสัดส่วนของผู้ชายและผู้หญิงที่ต่างกัน รวมไปถึงแนวคิดต่าง ๆ ก็ยังเป็นของยุคสมัยก่อน ที่บทบาทสังคมของผู้หญิงนั้นถูกกดให้ต่ำ ตามอัตลักษณ์ของร่างกาย

จุดเริ่มต้นของ Woke ในอุตสาหกรรมเกม จึงเริ่มมาจากเรื่องของการล่วงละเมิด การ Sexual Harassment การเลือกปฏิบัติ และการ Toxic ในที่ทำงานเป็นจุดแรก เรื่องนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ซึ่งกระแสของเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากค่ายเกมใหญ่ ๆ มากมาย โดยเฉพาะกับ Ubisoft, Activision Blizzard, EA, และ Bungie
อย่างที่เล่าไปก่อนหน้า Woke ถูกยกระดับมากขึ้น ในช่วงปี 2010 จนถึงปี 2022 ส่งผลให้ทั่วโลก โดยเฉพาะอเมริกา เริ่มโฟกัสกับเนื้อหาของคอนเทนต์ทุกอย่าง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความหลากหลายทางสังคม และเพื่อสนับสนุนแนวคิดของ Woke เนื้อหาของคอนเทนต์ต่าง ๆ จึงถูกปรับ และสอดแทรกแนวคิดเหล่านี้เข้ามา

ประจวบกับประเด็นการทำงานที่เป็นพิษ การล่วงละเมิด และชายเป็นใหญ่ในอุตสาหกรรมเกมที่มีมานาน ทำให้ค่ายเกมต่าง ๆ ต้องแสดงให้แฟนเกมรวมไปถึงสังคมเห็นว่า พวกเขาไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา หรือพวกเขาก็ได้ปรับปรุงตัวใหม่แล้ว โดยแสดงมันออกมาในรูปของเกมที่พวกเขาสร้าง
ซึ่งหากพวกเขาไม่สามารถทำออกมาให้เห็นได้ กฎสังคมก็จะเล่นงานพวกเขา ไม่ว่าจะกระแสแง่ลบทางออนไลน์ ไปจนถึงยอดขายเกมที่อาจจะแย่ลง เพราะแสดงให้เห็นถึงมุมมองความคิดสมัยเก่าที่ยังคงเหยียดเพศหรือเชื้อชาติอยู่

กรณีของประเทศไทย
สำหรับในไทย คำว่า Woke เริ่มถูกใช้จริงก็ช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา และหนักขึ้นมาก ๆ ก็ช่วงปัจจุบันนี้ (2024) แต่ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเราก็มีประเด็นเหล่านี้อยู่บ้างแล้ว เพียงแต่มันไม่เด่นชัดเท่ากับอเมริกาเท่านั้น
ประเด็น Woke ของไทยมีกระแสมาช้านานแล้ว แต่อยู่ในฝั่งของ “ละครใน TV” ที่ตัวละครบางกลุ่มยังไม่สามารถก้าวข้ามแนวคิดเดิม ๆ ได้ เช่น ตัวร้ายต้องแต่งตัวจัดเซ็กซี่ เพศที่ 3 ต้องตลก ต้องแปลก เป็นต้น นอกจากนี้ยังทีประเด็นเรื่องการบูลลี่ ไปจนถึงเรื่องมุขยุคเก่าที่ไม่เหมาะสม จนกลายเป็นประเด็นดราม่าในแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง X อยู่บ่อยครั้ง

ต่อมาเมื่อเกิดกระแสเรื่องของสังคมชายเป็นใหญ่ในที่ทำงานจากต่างประเทศขึ้น ส่งผลให้ประเด็นเรื่อง Sexual Harassment หรือการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานถูกปลุกขึ้นมา และทำให้ประเด็นนี้ได้รับการตระหนักรู้ในสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นนี้ “เกี่ยวข้องกับบริษัทเกม” จึงเรียกได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นแรกของการ Woke ที่เกี่ยวกับเกมในไทย
อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังปี 2022 เป็นต้นมา ประเด็น LGBTQ และ Beauty Standard ค่อนข้างมีผลเป็นลบและบวกผสมกันมาก ๆ ในไทย ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งมากมาย และเริ่มลามไปถึงฝั่งของสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะภาพยนต์ ซีรีส์ ละคร การ์ตูน และ “เกม”

ประเด็นเหล่านี้ยิ่งส่งผลแง่ลบมากขึ้น เมื่อสื่อต่างประเทศ เริ่ม “ดัดแปลงบทภาพยนต์” ให้มีภาพลักษณ์ตัวละครแตกต่างจากในอดีต ที่เห็นได้ชัดที่สุด และเรียกว่าเป็นจุดปะทะของการ Woke แรกในไทยแบบแรงที่สุด ก็คือภาพยนต์คนแสดงเรื่อง The Little Mermaid
เมื่อ The Little Mermaid ไม่สามารถสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับได้ กระแสลบของ Woke ในไทยจึงเริ่มหนักขึ้น และประจวบเหมาะกับที่สื่ออย่าง “เกม” เอง ก็เริ่มมีการปรับและดัดแปลงให้มีการใส่ความหลากหลายเข้าไปมากกว่าเดิม

โดย ณ ตอนนี้ (สิ้นปี 2024) ประเด็น Woke ก็ยังมีผลเป็นลบมากกว่าบวกในไทย เหล่าเกมเมอร์เริ่มมองบริษัทปรึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายระดับโลกอย่าง Sweet Baby เป็นศัตรู และมีท่าทีต่อต้านทันที เมื่อเห็นเกมที่มีลักษณะที่มีความหลากหลายใส่เข้ามา ไม่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ประเด็น Woke ในไทย แม้จะมีมุมมองที่เป็นลบซะส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ผู้คนซะทั้งหมดที่ต่อต้าน ตอนนี้อาจเรียกได้เป็นการแบ่งกลุ่มคนระหว่าง ขวาสุด ซ้ายสุด และกลุ่มที่อยู่ระหว่างกลาง หรือพูดง่าย ๆ ว่า มีกลุ่มที่ชอบ ไม่ชอบ และเฉลย ๆ ที่มองเกี่ยวกับเรื่อง Woke นี้อยู่นั่นเอง
ปรากฏการณ์ Woke และผลของมันที่ส่งผลต่อ “วงการเกม”
เคสเรื่องการ Woke ในเกมที่ใหญ่มากที่สุดในไทย คงหนีไม่พ้นเกมอย่าง
- Concord
- Star Wars Outlaws
- Assassin’s Creed Shadows
- Black Myth: Wukong
- God of Woke: Ragnarok และ The Last of Us Part 2

Concord เป็นหนึ่งในเกมสุดดราม่าที่เกี่ยวกับประเด็น Woke มากที่สุดในไทยก็ว่าได้ เนื่องจากภาพลักษณ์ของการออกแบบตัวละครในเกมนี้ทั้งหมด สามารถเรียกได้ว่ามันหลุดจากคำว่า Beauty Standard ในประเทศไทย หรือทั้งโลกไปไกลเลย บวกกับระบบการเล่นที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร และโมเดลการหารายได้ในเกมที่ค่อนข้างกำลังถูกต่อต้าน รวมไปถึงการเป็นเกมที่ใช้เวลาพัฒนามานานถึง 8 ปี และใช้ทุนสร้างไปมากถึง 400 ล้านดอลลาร์ ทำให้มันกลายเป็นเกมที่ถูกโจมตีในประเด็นของการ Woke มากที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็นเกมที่ล้มเหลวเพราะการ Woke เลยก็ว่าได้...

Star Wars Outlaws เป็นอีกหนึ่งเกมที่โดนประเด็นนี้หนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับกระแสต่อต้านพอดี บวกกับที่ตัวเกมมีการปรับแต่งอัตลักษณ์ตัวละครเอกให้ไม่ได้สวยแบบที่หลายคนหวัง จนมองว่าเป็นการ Woke แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมนี้ตกเป็นเป้าทันที ก็คือระบบการเล่นเกมเพลย์ รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ที่พบเจอในเกมจำนวนมาก ซึ่งไม่เหมาะสมกับราคาของตัวเกม ทำให้เกมนี้โดนกระแสต่อต้านทันที

Assassin’s Creed Shadows กลายเป็นประเด็นทันที หลังเลือกตัวเอกให้เป็นคนดำในเกมธีมเอเชียจ๋า บวกกับประเด็นบิดเบือนประวัติศาสตร์ ที่ทางนักพัฒนาพยายามเถียงว่าตัวเองถูก ทำให้ตัวเกมถูกต่อว่าอย่างหนักแม้ว่าเกมจะยังไม่วางขายออกมา ประจวบกับที่ Star Wars Outlaws ซึ่งเป็นเกมค่ายเดียวกันโดนกระแสตีกลับหนัก ทำให้ปัจจุบัน Assassin’s Creed Shadows ถูกเลื่อนวางจำหน่ายเพื่อกลับไปตั้งหลักใหม่นานจนถึงปีหน้าเลย

Black Myth: Wukong ไม่ได้โดนกระแส Woke ในไทยเล่น แต่กลับกลายเป็นเกมที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดี หลังตัวเกมโดนฝั่งยุโรปต่อว่า ว่าเป็นเกมไม่ Woke แถมมีประเด็น Sweet Baby มาเอี่ยว และบวกกับที่ตัวเกมแสดงได้ดีถึงการเป็นเกมต้นแบบ ที่เลือกจะเดินตามขนบ ไม่ดัดแปลงเนื้อหาต้นฉบับ แต่เลือกที่จะต่อยอด ภาพสวยอลัง เกมเพลย์สนุก เนื้อเรื่องน่าติดตาม ส่งให้เกมนี้เป็นเกมต้นแบบ ที่มักจะหยิบขึ้นมาเพื่อต่อต้านหรือเปรียบเทียบเกี่ยวกับประเด็นการ Woke อยู่บ่อย ๆ

God of War: Ragnarok และ The Last of Us Part 2 จริง ๆ สองเกมนี้ ณ ตอนที่ตัวเกมวางจำหน่าย ไม่ได้โดนกระแส Woke ตีแต่อย่างใด เนื่องจากตัวเกมค่อนข้างทำออกมาได้ดีมากในเกือบทุกด้าน และ ณ ขณะนั้นกระแสต่อต้าน Woke ไม่หนักเท่าตอนนี้ด้วย แต่อาจมีในฝั่ง The Last of Us Part 2 ที่โดนเอาประเด็น Woke มาจู่โจมบ้าง เนื่องจากตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรงสำหรับแฟนเกมบางส่วนแค่นั้น
อย่างไรก็ตาม หลังกระแสต่อต้าน Woke รุนแรงขึ้น ทั้ง 2 เกมนี้ก็ได้ถูกหยิบเอามาพูดอีกครั้ง ว่าเป็นเกมที่มีการใส่ Woke เข้ามา ซึ่งฝั่งต่อต้านมองว่าไม่ควรหรือไม่จำเป็นเลย...
จริง ๆ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ Woke ในไทยที่เกี่ยวกับอีกหลายเกมครับ แต่ถ้าเอาเด่น ๆ เลย ทั้ง 6 เกมที่เล่าไปทั้งหมดนี้นั้น คือเด่นชัดมากที่สุดแล้ว

สุดท้ายแล้วการ Woke นั้นดีหรือไม่ดี เราควร Woke อย่างไร ?
การจะบอกว่า Woke นั้น “ไม่ดี” ไปเลย หรือ “ดี” ไปเลย มันอาจจะพูดได้ยากในบริบทของสังคม ณ ตอนนี้ เพราะการ Woke ถ้าดูในฝั่งของเหตุผลแล้ว มันเป็นแนวความคิดที่ดีมาก เมื่อโลกของเรา ไม่ได้มีมนุษย์เพียงอัตลักษณ์เดียว การสนับสนุนเรื่องความหลากหลาย จึงถูกมองว่าดี

แต่ก็อย่าลืมว่า เพราะความหลากหลายที่พูดถึงกันนี้ นั้นหมายถึงมุมมองความคิดของผู้คนที่ไม่เหมือนกันด้วย และเป็นเวลามากกว่า 1,000 ปีแล้ว ที่มนุษย์เราเชื่อในเรื่องของอัตลักษณ์ไม่กี่อย่าง ซึ่งถูกมองว่า อัตลักษณ์แบบเนี้ยแหละดี แบบเนี้ยสวย การไปหักดิบบอกว่า “ไม่” มันจึงอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก
การจะ Woke ให้ดี ณ ตอนนี้ จึงเป็นการสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้โดยสมบูรณ์ ไม่มี Bug เกมเพลย์ดี เนื้อหาสนุก ไม่ล้ำเส้นต้นฉบับมากเกินไป และสุดท้ายคือการใส่สัดส่วนของเนื้อหาให้มี Woke แบบพอควร
![СТРИМ] Все ненавидят Concord](https://ixbt.online/gametech/covers/2024/08/22/nova-filepond-DoSK8n.png)
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตการ Woke จะได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน แต่จะนานแค่ไหน หรือเป็นเมื่อใด คงไม่มีใครสามารถตอบได้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่าน มุมมองความคิดของผู้คนที่ต่อต้านจะลดลง หากการ Woke ยังสามารถกระจายตัวเองลงในสื่อต่าง ๆ ได้เรื่อย ๆ เมื่อผ่านไปสักระยะ มันก็จะกลายเป็นเรื่องชินตา และกลายเป็นเรื่องปกติไปเอง

ซึ่งถ้าใครจะมองว่าการ Woke นั้นสามารถหยุดได้ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจก่อนคือ ณ ตอนนี้ สังคมเราเข้าสู่ยุคของความหลากหลายแล้ว คนดำเป็นประธานาธิบดีก็มีมาแล้ว นักกีฬาคนดำได้รับการรองรับอย่างกว้างขวาง นักแสดงก็มีที่โดดเด่นมากมาย หรือแม้แต่เรื่อง LGBTQ ในตอนนี้เอง ก็ไม่ได้เป็นเรื่องต่อต้านของครอบครัวหรือสังคมแบบ 10 หรือ 20 ปีก่อนอีกแล้ว มีสมรสเท่าเทียม มีหนังมีซีรีส์ที่สร้างชื่อ ในฝั่งผู้หญิงเองก็กลายเป็นเพศที่สามารถแสดงสิทธิของตัวเองได้มากขึ้น ต่างจากเมื่อก่อนที่อะไรหลาย ๆ อย่างก็จะดูด้อยหรือโดนตำหนิให้ด้อยกว่าเพศตรงข้ามเสมอ ๆ
เมื่อ Woke ถูกยอมรับได้ ประเด็นเรื่องของ Beauty Standard จะถูกยกระดับมากยิ่งขึ้น มุมมองความสวยงามความดูดีของผู้คนจะเปลี่ยนไป หลายคนจะยอมรับถึงความแตกต่างของอัตลักษณ์ได้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ามันจะเปลี่ยนภาพสังคม หรือภาพของสื่อไปอีกแบบ ซึ่ง “เกม” ก็ถือเป็นสื่อหลักที่รวมอยู่ในนั้นด้วย


กลับหน้ารวม